![]() |
งานธุรกิจ |
ความหมายและความสำคัญของธุรกิจ
งานธุรกิจ (Business) หมายถึง กระบวนการของกิจการทางเศรษฐกิจที่สัมพันธ์เป็นระบบและอย่างต่อเนื่องในด้านการผลิต การซื้อขายแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับสินค้าและบริการ โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะได้กำไรหรือผลตอบแทนจากกิจกรรมนั้น งานธุรกิจ เป็นกิจกรรมที่เกี่ยวกับการผลิต การจำหน่าย การแลกเปลี่ยนสินค้า ในเรื่องของสินค้าและบริการ โดยมุ่งหวังผลกำไรตอบแทน
จุดมุ่งหมายของการดำเนินธุรกิจ
ดังนั้น อาจกล่าวได้ว่า กิจกรรมใดที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ได้กำไร (Profit) ถือว่าเป็นธุรกิจ เช่น บริษัท ห้างร้าน ตลอดจนรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ การดำเนินของรัฐ เช่น การป้องกันประเทศ การสร้างถนนหนทาง โรงเรียน โรงพยาบาล และอื่น ๆ ไม่ถือว่าเป็นธุรกิจเพราะมิได้มีจุดมุ่งหมายด้านกำไร แต่เป็นการให้บริการแก่ประชาชนโดยมีจุดมุ่งหมายให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ความสำคัญของธุรกิจ พอสรุปได้ดังนี้
1. ธุรกิจช่วยให้เศรษฐกิจของชาติมีความเจริญก้าวหน้าและมั่นคง
2. ธุรกิจทำให้ประชาชนมีมาตรฐานการดำรงชีวิตที่ดีขึ้น
3. ธุรกิจทำให้รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้น
4. ธุรกิจช่วยแก้ปัญหาทางสังคม
5. ธุรกิจทำให้เกิดความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
จุดมุ่งหมายของการดำเนินธุรกิจ คือ ต้องการให้ได้กำไรมากที่สุด (Maximized Profit) ซึ่งต่างจากการดำเนินงานของหน่วยราชการ
และองค์การกุศล ซึ่งมีจุดมุ่งหมายในการให้บริการแก่ประชาชน โดยไม่หวังผลตอบแทน
งานธุรกิจมีประโยชน์หลายประการ ดังนี้
1. เป็นแหล่งผลิตสินค้าและแหล่งให้บริการ เพื่อตอบสนองความต้องการของคนในสังคมให้เกิดความพึงพอใจและความสะดวกสบายในการดำรงชีวิต
2. ทำให้เกิดการจ้างงาน เพราะการทำงานธุรกิจจำเป็นต้องมีการใช้แรงงานเพื่อผลิตสินค้าและให้บริการ ดังนั้นจึงทำให้คนมีงานทำและมีรายได้
3. กระจายสินค้าจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภค เมื่อผลิตสินค้าแล้วก็ต้องมีการกระจายสินค้าไปยังผู้ใช้สินค้าโดยการจำหน่าย หรือแลกเปลี่ยนสินค้ากัน
4. ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เมื่อผลิตสินค้าได้มากขึ้น เกินความต้องการของคนในประเทศ จึงต้องส่งสินค้าไปยังต่างประเทศทำให้มีรายได้เข้าสู่ประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้ดียิ่งขึ้น
ปัจจัยที่จำเป็นในการประกอบธุรกิจ
การประกอบธุรกิจ ใด ๆ ก็ตาม จำเป็นต้องใช้ปัจจัยในการผลิต ดังนี้
1. ทุน หมายถึง ทรัพย์สินหรือเงินสดที่มีส่วนในการสร้างกำลังผลิต ได้แก่เงินทุน เครื่องมือ เครื่องจักร และอุปกรณ์ต่าง ๆ อาคารที่ใช้ประกอบธุรกิจ
2. ที่ดิน หมายถึง สถานที่ตั้งในการประกอบธุรกิจ
3. แรงงาน หมายถึง แรงงานของคนทั้งด้านความคิดและกำลังกายในการทำธุรกิจ ซึ่งการเลือกแรงงาน ควรเลือกใช้คนให้ถูกกับงาน เพื่อให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ เช่น ตำแหน่งเลขานุการ ต้องการแรงงานที่มีความเฉลียวฉลาด จัดการเก่ง ส่วนตำแหน่งพนักงานขนส่งสินค้า ต้องการแรงงานที่มีร่างกายแข็งแรงบึกบึน เป็นต้น
4. การประกอบการ หมายถึง การวางแผนการจัดการ การควบคุมดูแลและประเมินผลการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ
คุณลักษณะของผู้ประกอบธุรกิจ
ผู้ประกอบธุรกิจโดยทั่วไปไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายก็ตามควรมีลักษณะดังนี้
1. มีความรู้ ความสามารถในธุรกิจที่ทำ
2. มีความรับผิดชอบ และความตั้งใจในการทำงาน
3. มีความซื่อสัตย์สุจริต
4. มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
5. มีความตรงต่อเวลา
6. มีความเสียสละในงานที่ทำ
7. มีมนุษยสัมพันธ์ดีต่อผู้ร่วมงานคนอื่น ๆ
ประเภทของงานธุรกิจ
การทำธุรกิจมีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทจะมีความสำคัญแตกต่างกันไป แต่งานธุรกิจทุกประเภทจะมีจุดมุ่งหมายเหมือนกัน คือ เพื่อผลิตสินค้าและบริการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
งานธุรกิจ สามารถแบ่งออกได้ตามลักษณะของกิจกรรมที่ทำ ดังนี้
1. ธุรกิจด้านการเกษตร เป็นการทำงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับ ด้านการเกษตร ได้แก่ การทำนา ทำไร่ ทำสวน การเลี้ยงสัตว์ การประมง เพื่อนำผลผลิตที่ได้มาจำหน่าย หรือแลกเปลี่ยนสินค้า
2. ธุรกิจอุตสาหกรรม เป็นการทำงานด้านอุตสาหกรรม เพื่อนำผลิตภัณฑ์มาจำหน่ายและเพื่อผลิตสินค้ามาใช้ในการดำรงชีวิต เช่น การผลิตของใช้ในบ้าน การผลิตเครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น
3. ธุรกิจด้านการเงิน การธนาคาร เป็นการทำงานเกี่ยวกับด้านการเงิน เช่น การรับฝากเงิน ถอนเงิน กู้เงินเป็นต้น
4. ธุรกิจด้านการก่อสร้าง เป็นการทำงานเกี่ยวกับการก่อสร้างบ้านเรือน หรืออาคารสถานที่ต่าง ๆ
5. ธุรกิจการให้บริการ เป็นการทำงานเพื่อให้บริการในด้านต่าง ๆ เช่น ธุรกิจร้านเสริมสวย ธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจการท่องเที่ยว เป็นต้น
จะเห็นได้ว่าในปัจจุบันนี้รัฐบาลไทยมีการสนับสนุนให้ทำธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางมากขึ้น เพราะธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางจะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้มั่นคงขึ้น และยังเป็นการกระจายรายได้ไปสู่ท้องถิ่นต่าง ๆ อีกด้วย โดยได้มีการทำธุรกิจขนาดเล็กหรือขนาดกลาง ที่ประกอบด้วย การผลิตสินค้า และการขายสินค้าหรือบริการ เช่น การทำผลิตน้ำพริก การผลิตเครื่องดนตรีไทยของชาวบ้านในชุมชนต่าง ๆ ที่มีจำนวนผู้ประกอบธุรกิจไม่มากนัก
คุณสมบัติของการทำธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง
1. เป็นการทำธุรกิจที่มีความรวดเร็วในการปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค ตลอดจนมุ่งความหลากหลายของรูปแบบสินค้ามากกว่ามุ่งปริมาณ
2. ใช้เงินทุนและเครื่องจักรไม่มากนัก ดังนั้นเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นจึงมีโอกาสฟื้นตัวได้ง่าย
3. สินค้าส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นสินค้าที่ทำ ด้วยมือที่ต้องใช้ทักษะความชำนาญผสานกับภูมิปัญญาดั้งเดิม และเทคโนโลยีในการออกแบบ เพื่อผลิตสินค้าให้มีความหลากหลาย มีเอกลักษณ์ และมีคุณค่า
4. มักเป็นกิจการที่อยู่ในชุมชน หรือในครัวเรือน มีการบริหารจัดการภายในครอบครัว หรือหมู่ญาติ ทำให้มีความคล่องตัว และมีกระบวนการควบคุมคุณภาพสินค้าได้อย่างทั่วถึงและใกล้ชิด
ความรับผิดชอบของธุรกิจ
ธุรกิจมีฐานะเป็นหน่วยหนึ่งของสังคม จำเป็นต้องมีความรับผิดชอบต่อบุคคล หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังจ่อไปนี้
1. ความรับผิดชอบต่อเจ้าของกิจการ ดำเนินธุรกิจให้เกิดกำไรสูงสุด
2. ความรับผิดชอบต่อลูกค้า การให้บริการลูกค้าให้ดีที่สุด
3. ความรับผิดชอบที่ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของรัฐ
4. ความรับผิดชอบต่อลูกจ้าง ในด้านสวัสดิการของลูกจ้าง
5. ความรับผิดชอบต่อสังคม โดยให้สังคมได้รับประโยชน์ตามสมควร
หน้าที่และความรับผิดชอบของธุรกิจ
หน้าที่ของธุรกิจ
การประกอบธุรกิจนั้นผู้ประกอบการจะต้องทำหน้าที่ต่าง ๆ เพื่อให้ธุรกิจดำเนินไปได้ด้วยดี หน้าที่ต่าง ๆ ของธุรกิจมีดังนี้
1. การผลิตสินค้า ธุรกิจอาจเลือกผลิตสินค้าหลายชนิด เช่น ผู้ผลิตสินค้าสำเร็จรูป
2. การให้บริการ เป็นธุรกิจที่อำนวยความสะดวกให้แก่ธุรกิจและผู้บริโภค
3. การจำแนกแจกจ่ายสินค้า ธุรกิจดำเนินการเกี่ยวกับการซื้อขาย
4. การจัดซื้อ ธุรกิจจำเป็นต้องมีการจัดซื้อวัตถุดิบเพื่อการดำเนินการ
5. การเก็บรักษาสินค้า ธุรกิจจะต้องเก็บรักษาวัตถุดิบและสินค้าสำเร็จรูปเพื่อบริการให้แก่ลูกค้า
6. การจัดจำหน่าย ธุรกิจมีหน้าที่จัดแสดงสินค้าเพื่อง่ายต่อการซื้อ
7. การจัดการทางการเงิน ธุรกิจมีหน้าที่จัดหาเงินทุนและบริหารเงินทุนที่มีจำนวนจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด
8. การจัดทำบัญชี ธุรกิจมีหน้าที่จัดทำบัญชีเพื่อเสียภาษี
9. การทำการโฆษณาสินค้า ธุรกิจมีหน้าที่โฆษณาและประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคได้รู้จักสินค้าและเกิดการตัดสินใจซื้อในที่สุด
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการประกอบธุรกิจ
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการประกอบธุรกิจสามารถแยกได้ 2 ลักษณะคือ
1. ปัจจัยภายใน หรือทรัพยากรของธุรกิจเป็นปัจจัยที่ธุรกิจ สามารถสร้างขึ้นและสามารถควบคุมได้ ได้แก่
คน (Man) หมายถึง กำลังคน
เงิน (Money) หมายถึง เงินทุน
วัสดุ (Meterial) หมายถึง กระบวนการต่าง ๆ เช่น การวางแผน การจัดองค์การ ฯลฯ
2. ปัจจัยภายนอก เป็นปัจจัยที่ธุรกิจไม่สามารถจะควบคุมกำหนดหรือเปลี่ยนแปลงได้ ได้แก่ สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ เช่น ภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจ กฎหมายการเมือง คู่แข่ง เทคโนโลยี ฯลฯ